รักแผ่นดิน


ถ้าท่านเปิดมาเจอเว็บนี้ ขอให้ท่านช่วยบอกต่อไปยังบุคคลอื่นๆ ให้รู้จักเว็บนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ยากจนด้อยโอกาส สำเร็จเป็นรูปธรรมมากขึ้น


โครงการเงินทุนเพื่อสนับสนุน การจัดตั้งโรงสีชุมชนสหกรณ์ และโครงการเมืองสหกรณ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

WRESEARCH ได้จัดทำเว็บไซด์ “ตลาดกลาง ซื้อ /ขาย /จอง สินค้าเกษตร-ประมง”  ขึ้นมาเพื่อเพิ่มทางเลือกในการซื้อ/ขายสินค้าเกษตร  ให้กับ เกษตรกร-ชาวประมง-ผู้บริโภค-พ่อค้าคนกลาง  (www.wresearch.org/helpfarmer.php)  รวมทั้งพยายามส่งเสริมให้เกิดเว็บไซด์ลักษณะแบบนี้ขึ้นมาให้มาก  เพื่อให้เกษตรกร-ชาวประมง มีชีวิตที่ดีขึ้น  มีทางเลือกในการซื้อ/ขายสินค้าของตนเองมากขึ้น  การถูกเอาเปรียบจากนายทุนบางราย  ที่พยายามกดราคารับซื้อสินค้าเกษตรน้อยลง   

 

                หลังจาก  WRESEARCH  ดำเนินการ ตลาดกลาง ซื้อ /ขาย /จอง สินค้าเกษตร-ประมง  ไประยะหนึ่ง สินค้าประเภทข้าว ค่อนข้างมีปัญหาเพราะผู้ซื้อต้องการข้าวที่สีแล้ว  แต่เกษตรกรไม่มีโรงสีของตนเอง  ทาง WRESEARCH จึงพยายามผลักดันให้เกิดโรงสีชุมชน   ประกอบกับทาง WRESEARCH  รับทราบว่ามี  โครงการพระราชดำริเรื่องโครงการเมืองสหกรณ์  ที่หลวงพ่อถาวร  วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร  เป็นผู้ดำเนินการหลัก(ในการสนองพระราชดำริ ของในหลวง)   ซึ่งในโครงการนี้ประกอบด้วยโรงสีข้าวของชุมชนสหกรณ์ด้วย

 

                ทางเจ้าหน้า WRESEARCH จึงได้เข้าพบหลวงพ่อถาวร เมื่อวันที่ 28ก.พ.2553  เพื่อแจ้งความประสงค์ในการที่  WRESEARCH  จะช่วยประกาศประชาสัมพันธ์เพื่อหาเงินสนับสนุน สร้างโรงสีชุมชนสหกรณ์และงานต่างของโครงการเมืองสหกรณ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ   

 

ดังนั้น  WRESEARCH จึงขอแจ้งมายังองค์กรภาครัฐและเอกชน องค์กรไม่แสวงหากำไร   สมาคม   มูลนิธิ  และบุคคลต่างๆ   เพื่อช่วยกันสนับสนุนเงินทุนจัดตั้ง  โรงสีชุมชนสหกรณ์และเมืองสหกรณ์  อันเนื่องจากพระราชดำริ    เพื่อให้เกษตรกรที่ปลูกข้าว รวมทั้งเกษตรกรและชาวประมงอื่นๆ มีคุณภาพชีวิตและรายได้ที่ดีขึ้น

 

สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ  โรงสีชุมชนสหกรณ์และโครงการเมืองสหกรณ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ   ดูได้ที่

http://sahakorn.tripod.com/

www.rdpb.go.th/rdpb

 

 

สนใจร่วมสนันสนุนเงินทุน  เพื่อจัดตั้งโรงสีชุมชนสหกรณ์และเมืองสหกรณ์ อันเนื่องจากพระราชดำริ  ได้ที่

( ในกรณีท่านร่วมสนับสนุนเงินทุนแล้ว  โปรดแจ้งชื่อ-จำนวนเงินสนับสนุน   มาที่  Email : paputking@yahoo.com  เพื่อเป็นฐานข้อมูลของทาง WRESEARCH )

1.สำนักงานมูลนิธิถาวรจิตตถาวโร-วงศ์มาลัย วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร โทรศัพท์ 02-2538822 , 02-2525465 หรือ โอนเงินเข้าบัญชี  ธนาคารกรุงเทพฯ  จำกัด (มหาชน) สาขาสยามสแควร์ เลขที่บัญชี 152-406559-4

ในนาม "มูลนิธิถาวรจิตตถาวโร-วงศ์มาลัยเพื่อเมืองสหกรณ์ถาวรพัฒนา" หรือ ทางไปรษณีย์สั่งจ่าย ปณ. จุฬาลงกรณ์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

2.สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.)

78 ทำเนียบรัฐบาล รร.จปร. (เดิม) อาคาร1 ถนนราชดำเนินนอก เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทร 02-280-6193-200   Email  webmaster@rdpb.go.th ต้องการสอบถามข้อมูลทั่วไปกับ WRESEARCH ติดต่อ ที่  Email  : paputking@yahoo.com

           WRESEARCH   ไม่ขอรับเงินสนับสนุนใดๆเพื่อจัดตั้งโรงสีชุมชนและเมืองสหกรณ์ ฯ   สำหรับท่านที่ต้องการสนับสนุนเงินทุน  โปรดติดต่อโดยตรงที่   มูลนิธิถาวรจิตตถาวโร-วงศ์มาลัย    หรือ    สนง.คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ   

 

 

ประวัติความเป็นมาโครงการเมืองสหกรณ์ ฯ

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยังธุดงคสถานถาวรนิมิต ( ปัจจุบันคือ วัดป่าศรีถาวรนิมิต) บ้านบุ่งเข้ ตำบลหนองแสง อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก เพื่อทอดพระเนตรพื้นที่สร้างอ่างเก็บน้ำคลองสีเสียด ซึ่งมีพื้นที่อยู่ใกล้กับธุดงคสถานถาวรนิมิต

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีความห่วงใยในชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรบริเวณรอบ ๆ พื้นที่ ที่จะสร้างอ่างเก็บน้ำคลองสีเสียด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก จึงได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับงานพัฒนาแหล่งน้ำและงานพัฒนาอาชีพของราษฎร

สรุปความว่า

ถ้ามีแหล่งน้ำเกิดขึ้นก็จะทำให้ป่าไม้ดูชุ่มชื่นเขียวชอุ่ม เมื่อน้ำไหลผ่านไร่นาของเกษตรกร ก็จะเป็นผลให้ทำไร่ทำนาได้ผลผลิตพอกินพอใช้ เหลือกินก็ขายได้ ในฤดูแล้งปลูกผักผลไม้ให้เกิดความร่มรื่นเขียวขจี ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรดีขึ้น เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้นชาวบ้านที่ทิ้งถิ่นที่อยู่เข้าไปขายแรงงาน ในเมืองและในกรุงเทพมหานคร ก็จะให้ความสนใจถิ่นที่อยู่และกลับไปทำมาหากินที่บ้านเกิดเมืองนอนอย่างแน่นอน และให้เกษตรกรรวมตัวกันจัดตั้งเป็นหมู่บ้านสหกรณ์ เต็มไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ที่ปลูกไว้กินผลตามบ้านเรือน ภายในบ้านมีสวนครัว และเลี้ยงสัตว์ จำพวกเป็ดไก่ จัดบ้านเรือนให้สะอาดถูกสุขอนามัย สร้างให้ครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ดีกว่าเดิม เป็นเมืองน่าอยู่น่าอาศัย

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม พ.ศ.2537 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปยัง วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ทรงมีพระราชปรารภกับพระราชพิพัฒนาทร (ถาวร จิตตถาวโร ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ที่กฏิหน้าศาลาพระราชศรัทธา ว่า

“หากเกษตรกรรวมตัวกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์ จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรดีขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น ชาวบ้านจะไม่ทิ้งถิ่นฐานที่อยู่ไปขายแรงงานในเมือง”

พระราชพิพัฒนาทร (ถาวร จิตตถาวโร ) จึงได้ถวายพระพรขอพระราชทานจัดทำโครงการเมืองสหกรณ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ


วัตถุประสงค์ของโครงการเมืองสหกรณ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประกอบด้วย

1.เพื่อเป็นการสนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

2.เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุครบ 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542

3.เพื่อให้สหกรณ์เป็นศูนย์กลางในการประสานงานกับส่วนราชการและภาคเอกชน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรในท้องถิ่นมากที่สุด

4.เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์ที่ได้จัดตึ้งขึ้นให้สามารถดำเนินกิจกรรมสนองความต้องการของเกษตรกรสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้มีการดำเนินการเกษตรกรรมแนวพระราชดำริ "ทฤษฎีใหม่"

6. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตครอบครัวเกษตรกรในด้านต่าง ๆ ให้ดีขึ้น ตลอดจนส่งเสริมด้าน ศีลธรรม จริยธรรม

7. เพื่อส่งเสริมการประสานงานตามแนวพระราโชบาย บ้าน วัด โรงเรียนในชุมชนให้ บรรลุผลเป็นรูปธรรม

ปัจจุบันโครงการเมืองสหกรณ์ฯ ก้าวเข้าสู่ระยะที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๔๖-๒๕๕๐) หลังจากได้ดำเนินงานโครงการระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๔๑ – ๒๕๔๕ ) เสร็จสิ้นแล้วปรากฏว่าการดำเนินงานโครงการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในพื้นที่นำร่อง จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดน่าน และจังหวัดนครนายก ทำให้ราษฎรในพื้นที่โครงการเข้าใจหลักและวิธีการสหกรณ์ใช้สหกรณ์บริการราษฎรในชุมชน เพื่อพัฒนาอาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ได้มีการขยายความสำเร็จจากพื้นที่นำร่องไปสู่พื้นที่อื่น ในลักษณะของเครือข่ายเชื่อมโยงกันภายในโครงการเมืองสหกรณ์ฯ พร้อมทั้งพัฒนาพื้นที่นำร่องให้มีความเจริญต่อไปไม่หยุดนิ่ง ยังคงเน้นการทำการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงในด้านราคาพืชผลการเกษตรของราษฎรในพื้นที่โครงการ และเพื่อความมั่นคงทางรายได้ของราษฎรในพื้นที่โครงการ ตามแนวทางทฤษฎีใหม่ขั้นที่ ๑ และรวมกันซื้อ รวมกันขายด้วยวิธีการสหกรณ์ ตามแนวทางทฤษฎีใหม่ขั้นที่ ๒

จากนั้น จะเชื่อมโยงกับขบวนการสหกรณ์ บริษัท ห้าง ร้าน ตามแนวทางทฤษฎีใหม่ขั้นที่ ๓ ทั้งนี้โครงการเมืองสหกรณ์ฯ มิได้ละเลยการทำเกษตรอินทรีย์ และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสุขภาพอนามัยของราษฎรผู้ผลิต และราษฎรผู้บริโภค อีกทั้งจะยังคงรักษาวัฒนธรรมอันดีงามเกี่ยวกับการผลิตทางการเกษตรไว้
ในอนาคตโครงการเมืองสหกรณ์ฯ จะขยายเครือข่ายของโครงการออกไปอีก โดยยังคงความเข้มแข็งของพื้นที่นำร่อง ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดนครนายก และจังหวัดน่านไว้ โดยการตั้งกลุ่มเตรียมการสหกรณ์โครงการเมืองสหกรณ์ฯ เพิ่มขึ้นโดยความกรุณาของคณะพระวิปัสสนาจารย์เพื่อพัฒนาสังคม เป็นผู้พัฒนาคนในเบื้องต้น พร้อมทั้งให้ความรู้ในเรื่องอุดมการณ์ หลักการ และวิธีการสหกรณ์ให้คนในกลุ่มเตรียมการสหกรณ์มีคุณธรรมตามคุณธรรมของโครงการเมืองสหกรณ์ฯ พร้อมตั้งเป็นสหกรณ์เพื่อขยายงานของโครงการเมืองสหกรณ์ ฯ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เป็นสหกรณ์ที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ เพื่อเข้าเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายโครงการเมืองสหกรณ์ฯและในที่สุดเครือข่ายโครงการเมืองสหกรณ์ฯ ก็จะเข้าเชื่อมโยงกับเครือข่ายขบวนการสหกรณ์ในประเทศไทย เพื่อเป็นเครือข่ายสำหรับการพัฒนาประเทศต่อไป

ปัจจุบัน โครงการเมืองสหกรณ์ อันเนี่องมาจากพระราชดำริ ได้ดำเนินการในพื้นที่

1.บ้านบุ่งเข้ ตำบลหนองแสง อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก

2.ตำบลโนนศิลาเลิง กิ่งอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์

3.บ้านวังตาว ตำบลสะเนียน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

และกำลังขยายผลออกไปยังจังหวัด สระแก้ว กาญจนบุรี บุรีรัมย์ พะเยา นครราชสีมา ลพบุรี นราธิวาส นครพนม มุกดาหาร ฯลฯ

 

 

โรงสีข้าวพระราชทาน

           พื้นที่โครงการเมืองสหกรณ์ฯ ที่กิ่งอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ มีสภาพดินและน้ำอุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการทำนามาก ทั้งยังมีคลองส่งน้ำสายหลักจากเขื่อนลำปาวตัดผ่านส่วนกลางพื้นที่ สมาชิกสหกรณ์และชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงทำนาเป็นอาชีพหลักต่อเนื่องกันมาหลาย ชั่วอายุคน ในแต่ละปีมีข้าวเหลือกินและต้องนำข้าวเปลือกออกขายเป็นจำนวนมาก พระราชพิพัฒนาทรพิจารณาเห็นว่า หากชาวนาได้ขายข้าวสารแทนการขายข้าวเปลือก ก็จะทำให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน พระราชพิพัฒนาทรได้ถวายพระพรของพระราชทานโรงสีข้าวให้แก่สหกรณ์บริการถาวร พัฒนา จำกัด

นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน ๖,๘๒๐,๐๐๐ บาท ให้สร้างโรงสีข้าวพระราชทานขนาดกำลังผลิต ๔๐ ตันต่อวัน บนพื้นที่ ๒๒ ไร่ ณ บ้านโนนศิลาเลิง กิ่งอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ แทนพระองค์ทรงเปิด “โรงสีข้าวพระราชทาน” เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๑

โรงสีข้าวพระราชทานได้เริ่มดำเนินการรวบรวมรับซื้อข้าวเปลือก และสีข้าวออกจำหน่ายตั้งแต่วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๑ เป็นต้นมา ภายใต้ความรับผิดชอบของคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์บริการถาวรพัฒนา จำกัด โดยมีคณะกรรมการบริหารโรงสีข้าวพระราชทาน ซึ่งมีท่านผู้หญิงวราพร ปราโมช ณ อยุธยา เป็นประธานกรรมการบริหาร

นโยบาย เป้าหมาย และแนวปฏิบัติของโรงสีข้าวพระราชทานมุ่งเน้นและหวังผลที่จะทำให้โรงสีข้าว พระราชทานเป็น “โรงสีแห่งความสุขร่วมกัน” ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๐ ความตอนหนึ่งว่า

 “แต่ถ้าพูดถึงข้าวที่โรงสีนี้ใช้ ไปซื้อจากเกษตรกรโดยตรง โดยให้ราคาที่เหมาะสม เกษตรกรก็มีความสุขเพราะขายข้าวได้ราคาที่เหมาะสม และผู้บริโภคก็ซื้อในราคาถูกเพราะไม่ต้องมีการขนส่งมากเกินไป ไม่ต้องมีคนกลางมากเกินไป ตกลงผู้ผลิต ผู้บริโภคก็มีความสุข”

 

 

   

     หน่วยงานดำเนินโครงการเมืองสหกรณ์  อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประกอบด้วย

     กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  และ มูลนิธิถาวรจิตตถาวโร-วงศ์มาลัย  เป็นหน่วยงานหลัก

 

 โดยมี องค์กรภาครัฐและเอกชนร่วมสนับสนุน  อาทิ

      คณะกรรมการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) 

      กระทรวงมหาดไทย  

      กองบัญชาการทหารสูงสุด   

      กองทัพบก  

      สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

      กรมชลประทาน 

      กรมประชาสัมพันธ์ 

      อ.ส.ม.ท.

      คณะพระวิปัสสนาจารย์เพื่อพัฒนาสังคม( รุ่นพิเศษ )

      มูลนิธิศาลาพระราชศรัทธา และคณะศิษย์พระราชพิพัฒนาทร (ถาวร จิตตถาวโร )

 

 

 

                                                                            ด้วยความนับถือ

                                                                                  นายสัมฤทธิ์  ศรีสุวรรณรัตน์ 

หัวหน้าส่วนโครงการพัฒนาสังคม wresearch